วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2554

MV กำลังใจจากบทเพลง


ทำไมนะชีวิตเราถึงมีแต่อุปสรรค....เหนื่อย....ท้อ....ต้องการกำลังใจอย่างแรง

MV ศรัทธา  
MV อย่าอยู่อย่างอยาก  

MV ให้เวลากับน้ำตาแค่วันเดียว - Rose

http://www.youtube.com/watch?v=_WWA4_VBchQ&feature=related

MV ก้อนหินก้อนนั้น - โรส ศิรินทิพย์    

http://www.youtube.com/watch?v=d9D2y-CF1Xo&feature=related

MV อย่าหยุดยั้ง(ดิโอฬาร โปรเจ็คท์)

MV หัวใจ Big Ass  (Official MV)

MV ทะเลใจ

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

วิธีเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือกับคอมฯผ่าน BlueTooth

โอนย้ายข้อมูลด้วย BlueTooth เรื่องง่าย แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด

Bluetooth Logoหลายๆ คนอาจเคยประสบปัญหา ไม่สามารถโอนย้ายข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือไปยังคอมพิวเตอร์ โดยผ่าน BlueTooth ได้ ทั้งนี้ที่เปิด BlueTooth ไว้แล้ว ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ทำไมมองไม่เห็นซึ่งกันและกัน ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ มีเทคนิคอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า มีครับ! ตอนแรกผมก็ไม่สามารถโอนย้ายได้เช่นกัน ต้องลองหลายๆ วิธีจนกระทั่งพบวิธีที่คิดว่าดีที่สุด ใครอยากรู้ต้องอ่านวิธีทำด้านล่างดูกันเอาเองน่ะครับ

การโอนย้ายข้อมูลแบ่งออกได้ 2 อย่าง

  1. โอนย้ายจากคอมพิวเตอร์เข้าโทรศัพท์มือถือ (PC to Mobile)
  2. โอนย้ายจากโทรศัพท์มือถือเข้าสู่คอมพิวเตอร์ (Mobile to PC)

การติดตั้ง BlueTooth ในคอมพิวเตอร์

สำหรับคอมพิวเตอร์ Notebook ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักมี BlueTooth แถมมาให้ด้วยอยู่แล้ว แต่สำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Desktop ส่วนใหญ่มักไม่มี?แต่ถ้าคุณต้องการติดตั้ง BlueTooth แนะนำให้หาซื้อ USB Bluetoothมาติดตั้ง ติดตั้งง่ายๆ เพียงแค่เสียบใน port USB Windows ก็จะทำการติดตั้งโปรแกรมให้อัตโนม้ติ แต่ถ้าไม่ได้ให้ใช้แผ่น CD/DVD ที่ให้มาพร้อมกับ USB BlueTooth ติดตั้งแทน

เริ่มต้นการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์มือถือกับคอมพิวเตอร์

  1. เปิด BlueTooth ที่โทรศัพท์มือถือ
  2. ที่คอมพิวเตอร์ ให้เข้าไปที่ Control Panel และคลิกเลือก BlueTooth
  3. จะได้หน้าตา BlueTooth Device ให้คลิกแท็ป Options
  4. เลือก "Turn discovery on" คลิกปุ่ม Apply และ OK เพื่อยืนยัน
  5. Bluetooth Devices
  6. จากนั้นให้คลิกแท็ป Device และคลิก Add
  7. คลิก Next จากนั้น ให้คลิกถูกหน้าข้อความ "My device is set up and ready to be found."
  8. คลิก Next เพื่อเริ่มตรวจสอบหา BlueTooth
  9. หลังจากค้นพบแล้ว ให้คลิกเลือก และคลิก Next
  10. โปรแกรมจะแสดงหน้าต่างให้ใส่รหัสผ่าน (Passkey) เลือก "Choose a passkey for me" คลิก Next
  11. Bluetooth Passkey
  12. โปรแกรมจะแสดง Passkey จากนั้นให้นำ Passkey นี้ ไปใส่ในโทรศัพท์มือถือ
  13. รอสักครู่ ที่หน้าจอคอมฯ จะเริ่มติดต่อกับโทรศัพท์มือถือ
  14. หลังจากติดต่อได้แล้ว ที่หน้าจอของ BlueTooth Device จะแสดงชื่อโทรศัพท์มือถือ และแจ้งว่า "Passkey enabled"
  15. เสร็จแล้วครับ สำหรับการเชื่อมต่อ

วิธีโอนย้ายจากคอมพิวเตอร์เข้าโทรศัพท์มือถือ (PC to Mobile)

  1. ให้คลิกไฟล์ภาพหรือเพลง จากนั้นคลิกขวาเลือก Send to เลือก BlueTooth Device
  2. จะพบหน้าตา BlueTooth File Transfer Wizard ให้คลิก Next
  3. กลับมาที่ โทรศัพท์มือถือ ให้คลิก Yes เพื่อ "Accept"
  4. รอสักครู่ จนกระทั่งโอนไฟล์เสร็จ
  5. ที่หน้าจอ โทรศัพท์มือถือ จะแสดงข้อความให้ View หรือ Play ขึ้นกับประเภทของไฟล์ที่โอนมา

โอนย้ายจากโทรศัพท์มือถือเข้าสู่คอมพิวเตอร์ (Mobile to PC)

  1. ก่อนอื่น ให้ไปที่คอมพิวเตอร์ให้คลิกขวาที่ไอคอน BlueTooth
  2. คลิกเลือก Receive a File (เพื่อรอการรับไฟล์จากโทรศัพท์มือถือ)
  3. กลับมาที่โทรศัพท์มือถือ เลือกไฟล์รูปภาพ หรือเพลง จากนั้นคลิกเลือก Send
  4. เลือก BlueTooth
  5. หน้าจอโทรศัพท์มือถือจะแสดง ชื่อคอมพิวเตอร์ให้คลิกเลือกและคลิก Send
  6. รอจนกระทั่งเสร็จ
ต้องลองกันดูน่ะครับ ถึงจะเห็นปัญหา และรายละเอียดของขั้นตอนต่างๆ แต่คิดว่าคงไม่ยากเกินไปน่ะครับ..

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

โปรแกรม Photoshop

ทำความรู้จักโปรแกรม Photoshop  จาก http://www.it-guides.com

โปรแกรมสำหรับการตกแต่งรูปภาพ

Adobe Photoshop คือชื่อเต็มของโปรแกรมนี้ ที่ใช้สำหรับการตกแต่งภาพ แก้ไขภาพ ย่อขนาด เปลี่ยนประเภทไฟล์ หรือหลายๆ คนอาจเคยได้ยินคำว่า Retouch ภาพซึ่งก็มีความหมายในแนวเดียวกัน โปรแกรม photoshop นี้ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ดีที่สุด และน่าใช้ที่สุดสำหรับการแก้ไขภาพก็ว่าได้ เรียกว่า ถ้าพูดถึงการแก้ไขรูปภาพดิจิตอล ต้องพูดถึงโปรแกรม Adobe Photoshop เลยทีเดียว
Photoshop CS
เราสามารถเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop นี้ได้ด้วยตัวเอง รับรอง คุณสามารถที่จะทำการแก้ไขภาพ ตกแต่งภาพ ซ้อนภาพในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย พร้อมกันนี้ที่ขาดไม่ได้ก็คือ การใส่ข้อความประกอบลงในภาพของเรา และเนื่องด้วย Adobe Photoshop มีการพัฒนาโปรแกรมมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราจำเป็นต้องศึกษาคำสั่งต่างๆ ให้เข้าใจ แต่ที่สำคัญ เมื่อคุณเรียนรู้การใช้คำสั่งในเวอร์ชั่นเก่า คุณก็ยังคงสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้ด้วยครับ

ความสามารถพื้นฐานของ Adobe Photoshop ที่ควรทราบ

  • ตกแต่งหรือแก้ไขรูปภาพ
  • ตัดต่อภาพบางส่วน หรือที่เรียกว่า crop ภาพ
  • เปลี่ยนแปลงสีของภาพ จากสีหนึ่งเป็นอีกสีหนึ่งได้
  • สามารถลากเส้น แบบฟรีสไตล์ หรือใส่รูปภาพ สี่เหลี่ยม วงกลม หรือสร้างภาพได้อย่างอิสระ
  • มีการแบ่งชั้นของภาพเป็น Layer สามารถเคลื่อนย้ายภาพได้เป็นอิสระต่อกัน
  • การทำ cloning ภาพ หรือการทำภาพซ้ำในรูปภาพเดียวกัน
  • เพิ่มเติมข้อความ ใส่ effect ของข้อความได้
  • Brush หรือแปรงทาสี ที่สามารถเลือกรูปแบบสำเร็จรูปในการสร้างภาพได้
  • และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมเสริมที่ช่วยให้การตกแต่งภาพด้วย Photoshop เป็นเรื่องง่ายๆ อีก นั่นคือ Plug-ins ของ Photoshop ซึ่งได้แก่ การปรับภาพจากภาพถ่าย มาเป็นภาพแบบวาดด้วยสีน้ำ ภาพลายการ์ตูน เป็นภาพลายเส้น เป็นต้น สำหรับ Plug-ins ที่เป็นที่นิยมใช้กับ Photoshop ได้แก่
  • AlienSkin Eye Candy
  • Extensis Photo Frame
  • Extensis Photo Graphics
  • Extensis Photo Tools
  • Kai's Power Tools
เมื่อคุณทราบคุณสมบัติของ Photoshop โดยคร่าวๆ แล้ว คุณพร้อมหรือยังที่จะเรียนรู้การใช้งาน
Last Updated (Wednesday, 22 December 2010 09:43)

PostHeaderIcon เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน

ทำความรู้จัก Pixels กันก่อน

ภาพที่ใช้งานใน Photoshop

เพื่อเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปภาพ ขนาดของรูปภาพและผลของการกำหนดขนาดของรูปภาพที่นำเข้ามาตกแต่งในโปรแกรม Photoshop ซึ่งจะมีผลอย่างมากเวลานำภาพนั้นๆ ไปพิมพ์ลงบนเครื่องพิมพ์ เราสามารถแบ่งประเภทของรูปภาพที่เราเห็นๆ อยู่ในคอมพิวเตอร์ได้ดังนี้

ประเภทของรูปภาพบนคอมพิวเตอร์

  • Vector Graphics

รูปภาพที่ใช้เส้น และความโค้งเป็นหลักในการสร้างภาพ การแก้ไขภาพ ด้วยการย่อหรือขยาย จะไม่มีผลทำให้ภาพนั้นเสียหาย รูปภาพที่สร้างจากโปรแกรม Vector นี้ ส่วนมากจะเป็นภาพในลักษณะการ์ตูน ไม่ใช่ภาพ Photo หรือ ภาพถ่ายทั่วๆ ไป
  • Bitmap Graphics

รูปภาพที่ประกอบด้วยจุดนำมาต่อกัน เราเรียกจุดเหล่านี้ว่า 'pixels' ถ้าจำนวน pixels มากภาพจะคมชัดกว่า เวลาขยายภาพให้ใหญ่ขึ้น คุณภาพของภาพที่ไม่ค่อยลดลง รูปภาพประเภท bitmap เหล่านี้ได้แก่รูปภาพถ่ายทั่วๆ ไป ที่ได้จากกล้องดิจิตอล หรือโทรศัพท์มือถือ
รูปภาพที่ใช้ในโปรแกรม Photoshop มีลักษณะที่เรียกว่า Bitmap หมายถึง ภาพที่ประกอบด้วยจุดสี่เหลี่ยม (pixel) มาเรียงต่อเนื่องกันเป็นภาพ ดังนั้นภาพที่มีความละเอียดสูงหรือมีจำนวน Pixels ที่สูง?เมื่อทำการซูมเข้าไปดูใกล้ๆ?ภาพที่มองเห็นก็จะคมชัดเหมือนเดิม ไม่แตกหรือมองเห็นเป็นรูปสี่เหลี่ยม
Photoshop pixels

DPI คืออะไร

Dot Per Inch คือความละเอียดหรือจำนวนจุดในพื้นที่หนึ่งตารางนิ้ว โดยในแต่ละจุดเราจะเรียกว่า พิกเซล Pixel

ภาพที่แสดงบนหน้าจอ ควรกำหนดเท่าใด

ถ้าภาพใดมีจำนวนพิเซลสูง ๆ ภาพนั้นก็จะให้ความละเอียดและความคมชัดในการพิมพ์ อย่างไรก็ตามก็กำหนดจำนวนพิกเซลนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ด้วย เช่น ถ้าต้องการนำไปแสดงผลที่หน้าจอ หรือบน web ก็อาจใช้จำนวนพิเซลประมาณ 72 dpi (Macintosh) หรือ 92 dpi (PC) แต่ถ้าต้องการนำไปใช้ในการพิมพ์อาจจำเป็นต้องกำหนดค่าความละเอียดที่ 350 dpi เป็นต้น การกำหนดจำนวน พิกเซล นอกจากมีผลกับความละเอียดแล้ว ขนาดของไฟล์ก็จะมีผลด้วย

ทิปและเทคนิคเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pixels

การกำหนดจำนวน พิกเซล เพื่อการพิมพ์ จำเป็นต้องดูความละเอียดในการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์ด้วย เช่น เครื่องมือสามารถพิมพ์ความละเอียดสูงสุดได้ที่ 600 dpi ดังนั้น เราก็ไม่ควรกำหนดรายละเอียดของภาพให้สูงกว่า 600 dpi เพราะเครื่องพิมพ์จะไม่สามารถพิมพ์รายละเอียดได้ และจะทำให้ความเร็วในการพิมพ์ลดน้อยลง..


ส่วนประกอบหลักของ Photoshop

เพื่อให้สามารถเข้าในการทำงานของโปรแกรม Adobe Photoshop หรือที่หลาย ๆ คนมักเรียก โฟโต้ช้อป 'Photoshop' เฉย ๆ ได้เรียนรู้ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เรามาเรียนรู้ส่วนประกอบหลัก ๆ ของ โฟโต้ช้อป ก่อนดีกว่า ว่ามีอะไรบ้าง และแต่ละส่วนทำหน้าที่อย่างไร... สำหรับส่วนประกอบที่แนะนำนี้เป็น โปรแกรม โฟโต้ช้อป เวอร์ชั่น 6.0 ซึ่งแตกต่างจากเวอร์ชั่นในปัจจุบันที่เป็น Photoshop CS บ้าง (สำหรับผู้ใช้งาน เวอร์ชั่น 4 หรือ 5 หรือแม้กระทั่งเวอร์ชั่นยอดนิยม เวอร์ชั่น 7 ก็สามารถศึกษารายละเอียดได้เช่นกัน จะแตกต่างกันบ้างก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น)
Photoshop main screen
  1. Title bar หรือแถบชื่อเรื่อง เป็นตำแหน่งที่แสดงชื่อของโปรแกรม
  2. Menu bar หรือแถบเมนู เป็นตำแหน่งแสดงคำสั่งต่าง ๆ ในการทำงาน
  3. Option bar เป็นตำแหน่งแสดงรายละเอียดของเครื่องมือ (Tools) ที่คุณเลือกใช้งานอยู่ในปัจจุบัน? ถ้าเป็นเวอร์ชั่นที่เป็น CS จะมีการแบ่งกลุ่มและเพิ่มเติม Tool ใหม่เข้ามา
  4. Toolbox หรือกล่องเครื่องมือ เป็นตำแหน่งที่เก็บรวมรวมเครื่องมือต่าง ๆ ของโฟโต้ช้อป
  5. หน้าต่างเอกสาร เป็นหน้าต่างงานของเราที่กำลังสร้างอยู่ สังเกตด้านบนจะเห็นชื่อของไฟล์ และขนาดของภาพที่ถูกย่อหรือขยายอยู่
  6. Pallette เป็นหน้าต่างพิเศษที่ช่วยในการทำงาน สามารถเพิ่มหรือลดได้ตามความต้องการ (สามารถเลือกได้จากเมนู window เลือกหน้าต่างที่ต้องการแสดงหรือไม่แสดง)
  7. แถบสถานะ เป็นตำแหน่งที่แสดงขนาดของไฟล์ และรายละเอียดการทำงานอื่นๆ

ทำความรู้จักโหมดสี RGB, CMYK

ในระบบคอมพิวเตอร์เราสามารถกแยกแยะโหมดสีออกเป็นประเภทต่างๆ ได้หลายประเภท ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากวัตถุประสงค์ในการนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนการเรียนรู้การแก้ไขภาพด้วย Photoshop จึงควรทำความเข้าใจเรื่อง mode สีให้ดีก่อน จะทำเรียนรู้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โหมดสี RGB คืออะไร

ย่อมาจาก Red Green Blue แสงสีขาวจากธรรมชาติหรือแสงจากดวงอาทิยต์ เกิดจากการผสมสีของแม่สีสามสีคือ แดง เขียวและน้ำเงิน ซึ่งเหมือนกับสีที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งโหมดสี RGB นี้ เหมาะสำหรับการนำภาพไปเป็น ฟิล์มสไลด์/เนกาตีฟเวลาใช้งานใน Photoshp ส่วนใหญ่เราจะใช้ Mode RGB ในการทำงาน ดังนั้นเวลาเข้าไปแก้ไขภาพและไม่สามารถทำงานบางอย่างได้ ให้ลองคลิกเข้าไปดูหัวข้อ Mode ปัจุจบันทีเราทำงานอยู่ อาจไม่ถูกต้องก็ได้ (ดูวิธีการเปลี่ยน Mode ด้านล่าง)

โหมดสี CMYK คืออะไร

ย่อมาจาก Cyan Megenta Yellow Black เป็นลักษณะโหมดสีที่เหมาะสำหรับใช้ในงานสิ่งพิมพ์?ที่ต้องการความละเอียดสูง?และได้สีที่ไม่ผิดเพี้ยน

โหมดสี Index คืออะไร

โหมดสีที่เหมาะสำหรับการทำภาพบน web โดยจะมีความละเอียดของสีไม่เกิน 256 สี ทุกครั้งที่คุณแปลงภาพจากโหมดสีอื่นๆ มาเป็น Index โปรแกรมจะทำการตรวจสอบรหัสสีที่ได้ โดยถ้าค่าสีใดไม่มีจะถูกแปลงเป็นสีใกล้เคียงให้อัตโนมัติ ดังนั้นภาพที่ได้จะให้ความสวยงามที่ใกล้เคียงของเดิม และทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงด้วย

การปรับแต่งโหมดสีใน Photoshop

เราสามารถปรับเปลี่ยน Mode ที่ของภาพที่เรากำลังแก้ไขอยู่ได้ โดยสามารถ
  1. คลิกเมนู Image
  2. เลือกเมนู Mode
  3. จากนั้นคลิกเลือกโหมดสีได้ตามต้องการ
หมายเหตุ ขั้นตอนคำสั่งข้างต้น สามารถนำไปใช้งานได้กับ Adobe Photoshop ได้ทุกๆ เวอร์ชั่น


Layer พื้นฐานสำคัญที่ต้องรู้สำหรับ Photoshop

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทราบสำหรับผู้ใช้งาน Photoshop

การทำงานของโปรแกรม Adobe Photoshop จะมีการแบ่งข้อมูลหรือวัตถุ เป็นส่วนๆ หรือแบ่งออกเป็นชั้น หรือที่ photoshop เรียกกว่า Layer ซึ่งจะมีผลทำให้ข้อมูลหรือวัตถุนั้นๆ สามารถแยกออกจากกันได้เป็นอิสระ ทำให้เราสามารถบริหารจัดการสิ่งนั้นๆ ได้สะดวกง่ายดาย

ตัวอย่างการทำงานของ Layer

  1. ให้นำรูปภาพเข้ามาแก้ไขใน Photoshop (จะได้ Layer รูปดอกไม้)
  2. พิมพ์ข้อความเพิ่ม โดยคลิกคำสั่ง Type Tool รูปตัว "T" จากนั้นคลิกบริเวณว่างที่หน้าต่างการทำงาน พิมพ์ข้อความ "ดอกทิวลิป" (จะได้ Layer ดอกทิวลิป)
  3. ทดสอบโดยการปิดรูปดวงตา ของ Layer ดอกทิวลิป
  4. photoshop layer
  5. จะเห็นว่า ตัวอักษรที่พิมพ์หายไป

ทิปการใช้งาน Layer

  • Layer ที่อยู่บนสุด จะอยู่ด้านบน Layer ด้านล่างจะถูกบังด้วย Layer ด้านบน
  • เราสามารถย้าย Layer ด้านบนมาด้านล่างได้ ด้วยการลาก Layer และวางในตำแหน่งที่ต้องการ
  • การปิด Layer (ชั่วคราว) สามารถปิดโดยการคลิกปุ่มรูปดวงตา
  • การลบ Layer เป็นการถาวร สามารถคลิกเลือก Layer นั้นๆ และกดปุ่ม delete ได้เลย
พอความเข้าใจการทำงานของ Layer แล้วหรือยังครับ ถ้ายังให้ลองอ่านและทำความเข้าใจอีกครั้งก่อนการเข้าไปศึกษาการทำงาน Photoshop น่ะครับ เพราะการทำงานต่อไปของ Photoshop จะกล่าวถึง Layer แทบทั้งหมด ลองพยายามอ่านและทำความเข้าใจอีกครั้งน่ะครับ สู้ๆ ..


รายละเอียด Photoshop Tools

Photoshop มีเครื่องมือต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย โดยมีการจัดเป็นหมวดหมู่ เครื่องมือต่าง ๆ จะอยู่ในส่วนที่เรียกว่า Toolbox (ด้านซ้ายมือ ถ้าไม่แสดง สามารถคลิกเข้าเมนู Window คลิกเลือก Tool) เราสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่อยู่ใน Toolbox ได้โดยการใช้เม้าส์คลิกเลือกเครื่องมือที่ต้องการ หรือกดตัวอักษรที่แป้นคีย์บอร์ด เช่น T หมายถึง Text Tool เป็นต้น
สัญลักษณ์ชื่อความหมาย
Move ToolMove Toolเครื่องมือในการเคลื่อนย้าย Selection, Guide และ Layers
Marquee ToolMarqueeเครื่องมือในการสร้างกรอบ Selection มีหลายรูปแบบให้เลือก (กดปุ่มค้างไว้ โปรแกรมจะแสดงให้ดูทางเลือกอื่น ๆ)
Lasso ToolLassoเครื่องมือในการสร้าง Selection แบบอิสระ
Magic wandMagic wandเครื่องมือในการสร้าง Selection ในบริเวณที่มีโทนสีเดียวกัน
Airbrush ToolAirbrushเครื่องมือในการวาดเส้นหรือระบายสีแบบนุ่ม เนียน
Paintbrush ToolPaintbrushเครื่องมือนการวาด หรือระบายสี
Clone Stamp ToolClone stampเครื่องมือในการสร้างหรือ copy ภาพบางส่วนหรือทั้งหมด (เดิมชื่อ Rubber stamp)
Crop ToolCropเครื่องมือในการเลือกภาพหรือตัดบางส่วน
Erasor ToolErasorเครื่องมือในการลบภาพ หรือระบายสีฉากหลัง
Line ToolLineเครื่องมือในการลากเส้น
Blur ToolBlurเครื่องมือในการทำภาพให้เบลอในบริเวณที่ต้องการ
Dodge ToolDodgeเครื่องมือในการทำให้ภาพสว่างขึ้นในบริการที่ต้องการ
Pen ToolPenเครื่องมือในการสร้าง Path เพื่อเพิ่มจุด path สำหรับสร้างแก้ไขภาพ
Text ToolTextเครื่องมือในการสร้างตัวอักษร
Gradient ToolGradientเครื่องมือในการระบายสีแบบไล่โทน หรือเฉดสี
Eyedropper ToolEyedropperเครื่องมือในการเลือกสี จากสีที่มีอยู่ในภาพ
Hand ToolHandเครื่องมือในการจับภาพ เพื่อเคลื่อนย้าย
Zoom ToolZoomเครื่องมือในการย่อหรือขยายภาพ เพื่อการดูเท่านั้น สามารถคลิกขวา จะมีคำสั่งลัดซ่อนอยู่
คำสั่งใดๆ ก็ตามที่มีเครื่องหมายสามเหลี่ยมเล็กๆ มุมขวาล่างสุด สามารถคลิกและจะได้คำสั่งเพิ่มเติมแสดงออกมา


วิธีบันทึกไฟล์ใน Photoshop รูปแบบต่างๆ

หลังจากมีการแก้ไขหรือตกแต่งรูปภาพด้วย Photoshop แล้ว เราสามารถบันทึกรูปภาพในรูปแบบ หรือ Format ต่างๆ ได้หลายๆ ประเภทดังต่อไปนี้

ไฟล์ประเภทต่างๆ ของ Photoshop

  1. PSD ไฟล์ คือไฟล์มาตราฐานของ Photoshop ถ้าเราต้องการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงรูปภาพในครั้งต่อไป เราจำเป็นต้องบันทึก หรือ Save ในรูปแบบของ PSD เทานั้น Layer ต่างก็ยังอยู่ครับด้วย (การใช้งานเพียงคลิกเลือก File และคลิกคำสั่ง Save)
  2. Save for Web & Devices เป็นการบันทึกเพื่อใช้สำหรับใช้งานบนเว็บ หรือสื่ออื่นๆ สามารถบันทึกเป็นไฟล์ประเภท Jpeg, GIF, PNG, WBMP เป็นต้น ไฟล์ที่ได้มีขนาดค่อนข้างเล็ก (การใช้งานให้คลิกเลือกเมนู File เลือกคำสั่ง Save for Web & Devices)
  3. ไฟล์ประเภทอื่นๆ เช่น Jpeg, PNG, TIFF, PCX, GIF เป็นต้น สามารถสั่งบันทึกได้โดยการเรียกใช้คำสั่งจากเมนู File เลือกคำสั่ง Save หรือ Save as (สำหรับข้อแตกต่างของการบันทึกด้วยวิธีนี้กับบันทึกด้วย Save For Web & Devices ก็คือ ไฟล์ที่บันทึกด้วย Save, Save as ไฟล์ที่ได้จะมีขนาดใหญ่กว่า และคุณภาพสูงกว่า
สำหรับผู้ใช้งาน Photoshop เวอร์ชั่นเก่าๆ อาจไม่มีคำสั่ง Save for Web & Devices น่ะครับ


วิธีปรับสีภาพถ่ายอัตโนมัติ

ภาพถ่ายสว่างไป มืดไป หรือสีไม่สวยแก้ได้ครับ

เวลาถ่ายรูปมา หลายๆ คนคงรู้สึกเสียดายที่ภาพถ่ายสวยๆ ของเรา กลับมืดหรือแสงสว่างจ้าเกินไป ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร จะกลับไปถ่ายใหม่ก็ใช่ที่? ไม่ต้องปวดหัวอีกต่อด้วย ด้วยเครื่องมือสำเร็จรูปของ Photoshop ช่วยให้คุณสามารถปรับแสง ปรับสีได้ง่ายๆ เพียงคลิกเดียว คลิกเดียวจริงๆ ครับ ถ้าไม่เชื่อลองดูวิธีทำได้เลยครับ

วิธีปรับแสงและสีใน Photoshop

auto contrast, color in photoshop
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกรูปภาพที่มีปัญหาเรื่องแสง หรือสี
  3. คลิกเลือกเครื่องมือ Image Adjustments
  4. เลือกปรับแต่งแบบอัตโนมัติได้ 3 อย่าง คือ
    • Auto Levels - ปรับเรื่องไล่ลำดับของแสงสี
    • Auto Contrast - ปรับเรื่องแสดงสว่าง
    • Auto Color - ปรับเรื่องสี
คงถูกใจหลายๆ คนน่ะครับ เพราะไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งอะไรให้มากเกินไป


วิธีแปลงภาพขาวดำเป็นภาพสี

แปลงภาพขาวดีเป็นภาพสีใน Photoshop

convert gray to color
วิธีแปลงภาพสีเป็นขาวดำ ทำได้ง่ายใน Photoshop เพียงคลิกเปิดไฟล์รูปภาพและคลิกเมนู Image เลือก Mode เลือก Gray Scale แต่ถ้าต้องการทำภาพขาวดำ เป็นสี ต้องวิธีนี้ครับ

วิธีแปลงภาพขาวดำ เป็นภาพสีด้วย Photoshop

Convert color tool in Photoshop
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกรูปภาพขาวดำที่ต้องการ
  3. คลิกเลือกเครื่องมือ Color Replacement Tool (อยู่ในกลุ่มเครื่องมือเดียวกับ Brush Tool)
  4. คลิกเลือกสีที่ต้องการ จากไอคอน Set foreground color / Set background Color
  5. ทาสีไปบริเวณรูปภาพขาวดำที่ต้องการ ภาพจะเปลี่ยนเป็นสีที่เลือก
  6. ในส่วนของสีขาว จะไม่มีการเปลี่ยนสี
  7. เราสามารถเลือกทาสีอื่นๆ ได้มากกว่าหนึ่งสีได้
ไม่ยากเกินไปน่ะครับ ลองนำรูปภาพคุณพ่อ คุณแม่เก่าๆ มาลองทำดูก็ไม่เลวน่ะครับ ขอให้สนุกกับการตกแต่งภาพน่ะครับ


วิธีใส่ขอบของตัวอักษรใน Photoshop

อีกหนึ่งเทคนิคสำหรับการตกแต่งข้อความ หรือตัวอักษร นั่นหนึ่งคือการใส่ขอบของตัวอักษร ซึ่งทำให้ตัวอักษรดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โปรแกรม photoshop ได้เตรียมเครื่องมือช่วยในการใส่ขอบของตัวอักษรไว้ให้แล้ว และสามารถใช้งานได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนสีได้ด้วย

วิธีการเพิ่มขอบของตัวอักษร

Stroke setup
  1. สร้างงานขึ้นมาใหม่
  2. คลิกเลือกเครื่องมือ "Type Tool"
  3. คลิกไปบริเวณพื้นที่ว่างๆ ของเอกสาร
  4. พิมพ์ข้อความที่ต้องการ เช่น? Stroke Text เป็นต้น
  5. มาที่หน้าต่าง layers คลิกขวาที่ Layers ข้อความนี้
  6. layer stroke text
  7. เลือกคำสั่ง Blending Options
  8. คลิกเลือก Stroke และกดปุ่ม OK
  9. ถ้าต้องการปรับแต่งขอบในรูปแบบอื่นๆ ให้คลิก Stroke
  10. รายละเอียดของหน้าต่างด้านขวาจะเปลี่ยนไป
    • ถ้าต้องการปรับความเข้มของขอบ ให้คลิก Opacity
    • ถ้าต้องการปรับความหนาของขอบ ให้คลิกเลือก Size
    • ถ้าต้องการเปลี่ยนสีของเงา ให้คลิกเลือกกล่องสีหรือ Color
  11. คลิก OK เพื่อยืนยันการแก้ไข
ต้องลองปรับแต่งกันดูตามความพอใจได้เลยครับ จะได้คล่องๆ??


วิธีใส่เงาของตัวอักษรใน Photoshop

สำหรับผู้ใช้งาน Photoshop ทุกท่าน

Shadow text
การตกแต่งข้อความ หรือตัวอักษร สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งคือการใส่เงา ซึ่งทำให้ตัวอักษรดูมีมิติ และน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โปรแกรม photoshop ได้เตรียมเครื่องมือช่วยในการเพิ่มเงาของตัวอักษรไว้ให้แล้ว และสามารถใช้งานได้ง่ายๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสี และความเข้มของเงาได้อีกด้วย

วิธีการใส่เงาให้กับตัวอักษร

Shadow text
  1. สร้างงานขึ้นมาใหม่
  2. คลิกเลือกเครื่องมือ "Type Tool"
  3. คลิกไปบริเวณพื้นที่ว่างๆ ของเอกสาร
  4. พิมพ์ข้อความที่ต้องการ เช่น? Shadow Text เป็นต้น
  5. มาที่หน้าต่าง layers คลิกขวาที่ Layers ข้อความนี้
  6. เลือกคำสั่ง Blending Options
  7. คลิกเลือก Drop Shadow และกดปุ่ม OK
  8. ถ้าต้องการปรับแต่งเงาในรูปแบบอื่นๆ ให้คลิก Drop Shadow
  9. รายละเอียดของหน้าต่างด้านขวาจะเปลี่ยนไป
    • ถ้าต้องการปรับความห่างของเงากับตัวอักษร ให้คลิก Distance
    • ถ้าต้องการปรับความหนาของเงา ให้คลิกเลือก Size
    • ถ้าต้องการเปลี่ยนสีของเงา ให้คลิกเลือกกล่องสีหรือ Color
  10. คลิก OK เพื่อยืนยันการแก้ไข
ต้องลองปรับแต่งกันดูตามความพอใจได้เลยครับ จะได้คล่องๆ?


วิธีสร้างเว็บแกลเลอรี่ในพริบตาใน Photoshop

สำหรับเว็บมาสเตอร์โดยเฉพาะ

อีกหนึ่งความสามารถใหม่ๆ ของ Photoshop ที่หลายๆ คนสนใจ นั่นคือการทำง Web Gallery โดยเราสามารถนำกลุ่มของรูปภาพมาทำเป็น Gallery โดยโปรแกรมจะมีการทำรูปภาพขนาดเล็กให้คลิกเพื่อดูรูปภาพขนาดใหญ่? โดยไม่จำเป็นต้องทำทีละภาพ โปรแกรม Photoshop จะจัดทำให้อัตโนมัติ แถมมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกอีกด้วย พร้อมนำไปใช้งานบนเว็บไซต์ของคุณได้ทันที หรือจะเปิดผ่านโปรแกรม Internet Explorer ได้ด้วย

วิธีการทำ Web Gallery อัตโนมัติ

Web photo gallery
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกเมนู File
  3. คลิกเลือกเมนูย่อย Automate
  4. คลิกเลือกเมนูย่อย Web Photo Gallery จะได้หน้าต่าง Web Photo Gallery
  5. เลือกรูปแบบจากหัวข้อ Styles ใส่ชื่อ Email ของเรา
  6. ในหัวข้อ Source Images ให้เลือก Folder ที่เก็บรูปภาพที่ต้องการทำ Gallery
  7. คลิกปุ่ม Destination เพื่อเลือก? Folder ที่ต้องการจัดเก็บไฟล์หลังจากทำเสร็จ
  8. คลิกปุ่ม Options ถ้าต้องการปรับแต่งเพิ่มเติม (แนะนำให้ทำทีหลัง จะได้ไม่สับสน)
  9. คลิก OK เพื่อยืนยันรูปแบบที่ต้องการ
  10. รอสักครู่ โปรแกรมจะเริ่มจัดทำ Gallery
  11. หลังจากเสร็จแล้ว โปรแกรมจะเปิดหน้า Web Photo Gallery ให้ทันที
  12. เราสามารถนำข้อมูลทั้งหมดใน Folder ที่สร้างขึ้นโดย Photoshop และ copy ไปยังเว็บไซต์ของเราได้ทันที ไฟล์เริ่มต้นคือ Index.htm หรือ Index.html
ในส่วนของ Options ที่ไม่ได้พูดถึงรายละเอียด เพราะต้องการให้เราเข้าใจพื้นฐานของ Web Photo Gallery เสียก่อน ก่อนที่จะในระดับสูงขึ้นไป? แต่สำหรับมือโปร ก็สามารถลองแก้ไขได้เลยครับ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว? ขอให้สนุกน่ะครับ..? (วิธีทำข้างต้น ทดสอบโปรแกรม Adobe Photoshop CS3)


วิธีพิมพ์ภาพแบบร้านถ่ายรูปใน Photoshop

ไม่ต้องเสียเงินไปร้านถ่ายรูปแล้วครับ

ด้วยความสามารถของ Photoshop ทำให้เราสามารถพิมพ์รูปถ่ายของเราจากล้องดิจิตอล หรือโทรศัพท์มือถือ ในรูปแบบเดียวกับร้านถ่ายรูปได้อย่างง่ายๆ สำหรับนำไปใช้สมัครงาน หรือติดบัตร เพียงแค่คลิกเลือกรูปถ่ายและรูปแบบของการพิมพ์ที่ต้องการ เท่านั้น? และผมก็เห็นว่าเป็นวิธีประหยัดเงินได้อย่างง่ายๆ จึงนำมาแนะนำกัน หวังว่าคงถูกใจน่ะครับ

วิธีการพิมพ์ภาพถ่ายแบบร้านถ่ายรูป

Picture Package
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกเมนู File
  3. คลิกเลือกเมนูย่อย Automate
  4. คลิกเลือกเมนูย่อย Picture Package จะได้หน้าต่าง Picture Package
  5. คลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกรูปภาพที่ต้องการ
  6. จากนั้นคลิก Layout หรือรูปแบบการพิมพ์ที่ต้องการ
  7. คลิก OK เพื่อยืนยันรูปแบบที่ต้องการ
  8. รอสักครู่ โปรแกรมจะเริ่มปรับแต่งภาพอัตโนมัติ
  9. หลังจากเสร็จแล้ว สามารถพิมพ์ได้ทันที
ลองเลือกรูปแบบต่างๆในส่วนของ Layout ดูน่ะครับ เพราะว่ามีหลายรูปแบบหลากหลายน่าสนใจดู ใครจะคิดไปรับจ้างพิมพ์ก็ไม่เลวน่ะครับ หารายได้พิเศษช่วยพ่อแม่ ครอบครัว เหมาะกันเศรษฐกิจในตอนนี้อย่างมาก (วิธีทำข้างต้น ทดสอบจากโปรแกรม Adobe Photoshop CS3)


ปรับแต่งรูปภาพแบบมืออาชีพด้วย Filter

Photoshop Filter คืออะไร

Filter คือเครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่ช่วยในการปรับเปลี่ยนรูปภาพ ใส่ effects ให้กับรูปภาพเพื่อสร้างความน่าสนใจอีกรูปแบบหนึ่ง ในโปรแกรม Photoshop เองได้มี Filter ให้เราสร้างใช้งานได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในการตกแต่งแต่อย่างใด เพียงแค่เลือกบริเวณของรูปภาพที่เราต้องการตกแต่ง จากนั้นเลือกรูปแบบ Filter ที่ต้องการ

วิธีการใส่ Filter ให้กับรูปภาพ

Photoshop CS filter
  1. เปิดโปรแกรม Photoshop
  2. เลือกรูปภาพที่ต้องการ
  3. คลิกเมนู Filter
  4. ให้ลองเลือกหัวข้อ Artistic
  5. เลือกคำสั่ง Colored Pencil
  6. ให้ทดลองปรับเปลียนคำสั่งย่อยต่างๆ เพิ่มเติมได้อีก เช่น
    • Pencil Width
    • Stroke Pressure
    • Paper Brightness
  7. คลิกปุ่ม OK เมื่อปรับแต่งเป็นที่พอใจแล้ว
เห็นไหมครับว่า เราสามารถตกแต่งภาพ ใส่ effects ได้อย่างง่ายดาย และสามารถนำไปใช้งานได้ทันที ลองทดลอง filter ตัวอื่นๆ ดูกันน่ะครับ สำหรับการทดสอบนี้ ได้ทดสอบกับ Adobe Photoshop CS3 นะครับ ส่วนใครที่ใช้ Adobe Photoshop เวอร์ชั่นใหม่กว่า หรือเก่ากว่า เช่น Adobe Photoshop 7 เป็นต้น ก็มีหลักการเดียวกันครับ แต่อาจไม่ได้แสดง Filter อื่นๆ ในคราวเดียวกัน เท่านั้นเอง


วิธีติดตั้ง Brushes ใน Photoshop CS

Brushes ใน Photoshop คืออะไร

สามารถแปลได้ตรงตัวเลย คำว่า Brushes ของ Photoshop ก็คือแปรงทาสี นั้นเอง เราสามารถเลือกขนาดของแปลงทาสีได้ด้วย แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือ เราสามารถเลือกแปรงเป็นรูปภาพต่างๆ ได้ เช่น แปรงรูปต้นไม้ รูปสัตว์ หรือสัญลักษณ์อะไรก็ได้ดวย โดยปกติ Photoshop จะมีแปรงแถมมาให้แล้วบางส่วน ซึ่งเราสามารถใช้งานได้ทันที แต่ถึงอย่างไรเราสามารถหา download แปรงทาสี หรือ Brushes เพิ่มเติมได้อีกด้วย เอาไว้จะแนะนำให้ในคราวต่อไป
Brushes Photoshop CS

วิธีการติดตั้ง Brushes ใน Adobe Photoshop CS3

  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกเมนู Windows เลือก Brushes
  3. หรือกดปุ่ม F5 แทนได้ด้วย
  4. ใหกดปุ่มด้านข้าง (ขวามือ)
  5. เลือกเมนู Load Brushes
  6. เลือกไฟลื Brushes ตามต้องการ
ทิป ไฟล์ของ Brushes มีนามสกุล .ABR ครับ และถ้าเราต้องการ download Brushes จากเว็บไซต์ไหน ให้ดูเสียก่อนว่า รองรับกับ Photoshop เวอร์ชั่นใดบ้างด้วย


ปรับแต่งสีของรูปภาพแบบเนียนๆ

เทคนิคง่ายๆ ในการปรับเปลี่ยนสีของรูปภาพ

Replace Color with Photoshop CS
อีกหนึ่งวิธีในการตกแต่งรูปภาพที่หลายๆ นิยมใช้กัน ก็คือการเปลี่ยนสีของรูปภาพ เช่น การเปลี่ยนสีผม, สีของสิ่งของต่างๆ, สีของดอกไม้ เป็นต้น โดยปกติ ถ้าเราใช้คำสั่ง Fill (เติมสี) จะทำให้สีที่ได้มีความแข็งกระทั่ง ไม่มีมิติ ดังนั้น เราควรใช้เทคนิคการ replace color แทนการ Fill

วิธีการ Replace Color รูปภาพ

Replace color
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกเมนู Images
  3. เลือก Adjustments
  4. เลือกหัวข้อ Replace Color
  5. จะได้หน้าต่างการปรับค่า ให้เริ่มจากการ เอาหลอดดูดสี เลือกสีที่ต้องการ
  6. จากนั้นดูตัวอย่างสีที่เลือกในช่อง preview
  7. ถ้ายังไม่ครอบคลุมสีที่ต้องการ ให้คลิกปรับ Fuzziness มาทางขวามือ
  8. ถ้าเลือกสีได้ครอบคลุมแล้ว ให้เลือกปรับเปลี่ยนสีโดยการคลิกหัวข้อด้านล่าง "Replacement"
  9. ทดลองปรับทีละข้อ (มี 3 ข้อ คือ Hue, Saturation, Lightness)
  10. คลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยัน
ลองๆ ทำดูก่อน ถ้ายังไม่ได้ ให้อ่านทีละหัวข้อให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่งน่ะครับ? รับรองว่าทำได้แน่นอน? โปรแกรมเวอร์ชั่นของ Adobe Photoshop ที่ทดสอบคือ Photoshop CS3


สร้างอักษรนูนใน Photoshop

รูปแบบตัวอักษรนูน สไตล์ Emboss

Emboss Font in Photoshop
วิธีที่จะสร้างตัวอักษรนูนในรูปแบบที่เรียกว่า Emboss นั้น เราสามารถใช้โปรแกรม Adobe Photoshop เวอร์ชั่นเก่าๆ เช่น Photoshop 7 เป็นต้น สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้คำสั่งที่อยู่ใน Blending Options ที่เลือกจาก Layer ข้อความนั้นๆ (ถ้า Layer ไม่แสดง ให้กดปุ่ม F7) สำหรับรายละเอียดขั้นตอนการทำ สามารถทำได้ดังนี้

ขั้นตอนการสร้างอักษรนูนใน Photoshop

Blending Options Photoshop
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshp และเลือกไฟล์ New
  2. คลิกเลือกเครื่องตัว "Type Tool" หรือสัญลักษณ์ตัวอักษร "T"
  3. คลิกที่เอกสารว่างๆ และพิมพ์ข้อความที่ต้องการ
  4. ใส่สีตามต้องการ
  5. จากนั้นให้ดูที่หน้าต่าง 'Layer" คลิกขวาที่ Layer ของข้อความที่พิมพ์ไว้ เลือกคำสั่ง "Blending Options"
  6. จะได้หน้าต่างแสดงรายละเอียดต่างๆ ของ Layer Style ดังภาพประกอบด้านบน
  7. ให้คลิกเลือกให้มีเครืองหมายถูกหน้าข้อความ
    • Bevel and Emboss
    • Contour
  8. จากนั้นคลิกปุ่ม OK
เสร็จแล้วครับ ทำได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ให้ลองอ่านรายละเอียดตั้งแต่หัวข้อ 1 ใหม่และลองทำช้าๆ ดูน่ะครับ แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องของ Layer ให้อ่านหัวข้อนี้ครับ Layer พื้นฐานสำคัญที่ต้องรู้สำหรับ Photoshop


สร้างข้อความ จากพื้นของรูปภาพ Photoshop

สร้างข้อความหรือตัวอักษรใน Adobe Photoshop

ปกติเราสามารถสร้างข้อความ หรือตัวอักษรสวยๆ ได้ใน Adobe Photoshop ด้วยการเลือกคำสั่ง "Type Tool" ซึ่งจะได้สีตามที่เราเลือกไว้ แต่ถ้าเราต้องการให้สีของตัวอักษรเป็นภาพ background ของรูปภาพของเราหละ จะทำอย่างไรได้?

วิธีนำรูปภาพมาเป็นพื้นหลังของตัวอักษร

Photo Text in Photoshop
  1. เปิดไฟล์รูปภาพที่ต้องการนำมาเป็นฉากหลัง
  2. เลือกคำสั่ง "Type Tool" เพื่อพิมพ์ตัวอักษร แต่ให้เราเลือกการพิมพ์แบบร่าง "Horizontal Type Mask Tool"
  3. คลิกที่รูปภาพ (สีภาพจะเปลี่ยนเป็นสีแดงออกส้ม)
  4. พิมพ์ข้อความที่ต้องการ (แนะนำให้เลือก Font ที่มีตัวอักษรแบบหนาๆ)
  5. จากนั้นให้คลิกที่ไอคอน Move Tool? (รูปลูกศรบนสุด)
  6. จะเห็นรูปว่า มีตัวอักษรแบบร่าง กระพริบอยู่
  7. เราสามารถคลิกและลากข้อความกระพริบนี้ ไปวางที่ใดก็ได้ หรือ copy และ Paste ในเอกสารใหม่ได้ทันที
ลองทำดูอีกครั้งน่ะครับ รับรองไม่ยากจนเกินความสามารถของคุณแน่นอน...


หุ่นดี หุ่นสวย ด้วย Adobe Photoshop

ปรับหุ่นให้สวยเช้งด้วย Adobe Photoshop


สำหรับใครที่มีปัญหาทางด้านรูปร่าง หรือต้องการหัดปรับแต่งรูปภาพด้วย Adobe Photoshop วันนี้เรามีวิธีการง่ายๆ ในการปรับแต่งรูปภาพของคุณให้มีหุ่นสวยงามเหมือนนางแบบ ด้วยคำสั่ง Filter คำสั่งย่อ่ย Liquify รับรองมือใหม่หัดใช้ Photoshop ก็สามารถทำได้เช่นกัน

อยากปรับภาพของตัวเองให้สวยดังใจ เชิญทำตามได้เลยครับ

Photoshop Filter Liquify

วิธีใช้คำสั่ง Liquify

Retouch Virtual Weight Loss

  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. เลือกรูปภาพที่เราต้องการปรับแต่ง (ควรเลือกภาพที่เน้นรูปร่างสักนิด) สามารถหารูปได้ง่ายๆ จาก Google.com
  3. คลิกคำสั่ง Filter
  4. เลือกคำสั่งย่อย Liquify
  5. จากนั้น โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างใหม่ และเข้าสู่หน้า Filter Liquify
  6. คลิกไอคอนด้านซ้ายมือด้านบน ที่เป็น รูปมือชี้ (Forward Wrap Tool)
  7. ส่วนด้านซ้าย Tool Options
  8. ให้ปรับขนาดของแปรงตามต้องการ (ช่อง Brush Pressure ควรมีตัวเลขมากหน่อย อย่างน้อย 50-90)
  9. เลื่อนเม้าส์มาที่ภาพ ในบริเวณที่ต้องการปรับแต่ง เช่น เอว เป็นต้น
  10. คลิกเม้าส์ค้าง และดึงเข้าหารูปภาพ (ต้องลองทดสอบดู)
  11. ปรับแต่งส่วนต่างๆ ตามต้องการ
การทดสอบนี้ใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS3 น่ะครับ


สร้างภาพเคลื่อนไหวใน Adobe Photoshop

GIF ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวประเภทหนึ่ง

การสร้างภาพเคลื่อนไหวสำหรับไว้แสดงบนเว็บไซต์ นอกเหนือจากการสร้างด้วยโปรแกรม Flash แล้ว ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้การใช้งานมากพอควร อย่างไรก็ตาม การสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจและสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก โดยมีหลักการดังนี้คือ การสร้างที่ละฉาก และกำหนดเวลาในการแสดงแต่ละฉาก จากนั้นบันทึกเป็นไฟล์ที่มีนามสกุล GIF แค่นี้เวลาเราเปิดด้วยโปรแกรม "Windows Picture and Fax Viewer" ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีอยู่แล้วใน Windows ก็จะสามารถเห็นไฟล์ที่เคลื่อนไหว แต่ถ้ายังหาโปรแกรมนี้ไมเจอ ก็สามารถ Insert ไฟล์ .GIF ไปแสดงที่โปรแกรม PowerPoint ก็ได้เช่นกัน

* สนใจลองทำตามตัวอย่างการสร้างภาพเคลื่อนไหว (ตัวอักษร) ด้านล่างนี้
Hello World Animation

วิธีสร้างภาพเคลื่อนไหวด้วย Photoshop CS3

Animation with Photoshop

  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop CS3 (CS4 ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน)
  2. คลิกเมนู File เลือก New และกำหนดขนาดตามต้องการ
  3. คลิกเมนู Windows เลือก Animation เพื่อให้โปรแกรมแสดงหน้าต่าง Animation
  4. ทดสอบโดยการพิมพ์คำว่า "Hello" ในหน้าต่างที่สร้างขึ้น
  5. พิมพ์คำว่า "World" อีกคำหนึ่ง จะเห็นว่า Hello และ World อยู่คนละ Layer ด้วย (เช็คได้ด้วยการเปิด Windows -> Layers)
  6. เริ่มสร้างให้ภาพเคลื่อนไหว โดยการคลิกที่หน้าต่าง Animation ด้านล่าง เลือกหัวข้อ "Duplicates selected frames" (ไอคอนนี้จะอยู่ด้านข้างของไอคอนรูปถังขยะ)
  7. จะเห็นว่ามีหน้าต่าง เพิ่มขึ้นอีกหน้าต่างหนึ่ง
  8. คลิกที่หน้าต่าง Layers ให้คลิกรูป "ลูกตา" ให้หายไป สังเกตุที่หน้าต่าง Animation แต่ละหน้าต่างจะไม่เหมือนกัน
  9. คลิกที่คำว่า "0 sec." เลือกเวลาที่ต้องการให้แสดง เช่น 0.5 เป็นต้น หมายถึง ให้แสดงภาพนี้นานครึ่งวินาที
  10. กำหนดเวลาให้ทั้งสองหน้าต่าง (ควรกำหนดเวลาให้ต่างกันบ้าง เช่น .05 และ 1.0 เป็นต้น แล้วสังเกตุความเร็ว)
  11. คลิกปุ่ม Play จะเห็นว่าภาพเคลื่อนไหวแล้ว
  12. เวลาบันทึก ให้คลิกเลือกเมนู File เลือกคำสั่ง "Save for Web?& Devices"
  13. ทดสอบเปิดไฟล์ดู (ดูตัวอย่างได้จากภาพด้านบน)

Action เครื่องมือน่าใช้ใน Photoshop

ทำความรู้จัก Action ใน Photoshop


สำหรับผู้ใช้งาน Adobe Photoshop คงคุ้นเคยกับเครื่องมือต่างๆ ในการใช้งานพอสมควร แต่สำหรับ "Action" แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจมากตัวหนึ่ง เหมาะสำหรับการทำอะไรซ้ำๆ ตัวอย่างเช่น การปรับขนาดของรูปภาพ เป็นต้น เรามาลองคิดดูว่า ถ้าเราต้องลดขนาดรูปภาพต่างๆ ประมาณ 100 หรือ 1,000 รูปภาพ ให้มีขนาดเท่ากัน ถ้าโดยปกติแล้ว เราต้องทำขั้นตอนดังนี้คือ
  1. เปิดรูปภาพที่ต้องการลดขนาด
  2. เลือกคำสั่ง Image
  3. เลือกคำสั่ง Image Size
  4. ในช่อง Pixel Dimention ปรับขนาดลงตามต้องการ? เช่น 640 x 480 เป็นต้น
  5. กดปุ่ม OK เพื่อยืนยัน
จากขั้นตอนข้างต้น จะเห็นว่าเราจำเป็นต้องทำซ้ำๆ หลาย และยิ่งถ้ามีรูปที่ต้องการปรับขนาดจำนวนมาก ย่อมจะต้องเสียเวลามากเลยทีเดียว? Adobe Photoshop เล็งเห็นปัญหานี้จึงได้สร้างคำสั่ง Action มาช่วยแก้ปัญหานี้

Action คืออะไร

Action Photoshop


หลักการทำงานของ Action เพียงแค่บันทึกขั้นตอนการทำงานที่ต้องการ จากนั้นก็เป็นทึกเป็นคำสั่งหนึ่งใน Action แค่นี้เวลาต้องการเรียกใช้งาน ก็สามารถสั่งรันโปรแกรม Action ที่เราสร้างขึ้นได้ทันที

ตัวอย่าง Action ที่มีมาให้ใน Adobe Photoshop CS3


Quadrant Colors เป็นคำสั่ง Actions ที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนสีในรูปภาพ ให้มีการแยกโทนสีเป็น 4 แบบ เพียงแค่เลือกรูปภาพที่ต้องการ จากนั้นกดปุ่ม รัน (รูปสามเหลี่ยมด้านล่าง) โปรแกรมก็จะปรับภาพให้อัตโนมัติ? (ดูตัวอย่างจากภาพตัวอย่างข้างบน)

ปรับภาพในรูปแบบของ ตรายางประทับภาพ ใน Photoshop

Stamp หรือตรายางในการประทับภาพ


คุณเคยใช้ตรายางประทับโลโก้ของบริษัท เพื่อประทับในเอกสารหรือเปล่า หรืออาจเป็นตราประทับประเภท "ด่วน" หรือ "ความลับ" เป็นต้น ซึ่งผลที่ได้จะมีลักษณะเป็นแค่ตัวอักษร ไม่มีลายละเอียดมากนัก แต่ถ้าคุณลองมาเปลี่ยนแปลงรูปของคุณมาเป็นแบบ "ตรายางประทับ" หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า "STAMP" แล้วละก็ ก็ดูจะได้อีกหนึ่งรูปภาพแบบ "ศิลป์" ที่น่าสนใจไม่น้อย


แปลงภาพในรูปแบบของ Stamp ด้วย Photoshop

Filter Stamp Photoshop CS3


การทดสอบนี้ ใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS3 และใช้คำสั่งตกแต่งภาพ "Filter" เลือกคำสั่งย่อย "Sketch" และเลือกคำสั่ง "Stamp" คำสั่ง Filter นี้มานานแล้วใน Photoshop รุ่นอื่นๆ ซึ่งเชื่อว่ายังคงมีอยู่ในรุ่นปัจจุบันเช่นกัน ถ้าพร้อมแล้วให้ทำตามขั้นตอนดังนี้
  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. เปิดรูปภาพที่ต้องการขึ้นมา
  3. จากนั้นเลือกสีพื้นก่อนว่า ต้องการให้ปรับภาพเป็นสีอะไร

    Select color Photoshop CS
  4. เลือกเมนู Filter
  5. เลือกคำสังย่อย Sketch
  6. จากนั้นเลือกคำสั่ง Stamp
  7. เลือกปรับแต่ง รูปแบบของ Stampตามความต้องการที่ด้านขวามือ

    Adjust Filter Stamp Photoshop CS
  8. คลิกปุ่ม OK เมื่อปรับแต่งได้ตามความต้องการ
  9. บันทึกไฟล์ในรูปแบบที่ต้องการ โดยกดปุ่ม File เลือก Save As
แค่นี้เราก็ได้ภาพสวยๆ ไว้อวดเพื่อน หรือจะนำไปทำเป็นการ์ดในโอกาสต่างๆ ก็เก๋ไม่น้อย


วิธีใช้งาน Photoshop Brushes

แนะนำวิธีใช้งาน Photoshop Brushes

หลังจากได้แนะนำอีกเครื่องมือหนึ่งที่น่าสนใจของ Photoshop นั่นคือ "Brushes" แล้ว รวมทั้งได้แนะนำแหล่ง downoad Free Brushess ต่างๆ ให้เลือก download กันอย่างจุใจไปแล้ว มาคราวนี้มาลองดูว่ เราจะใช้งาน Brushes ได้อย่างไร เนื่องจาก Brushes ก็คือแปรงวาดภาพ หรือภู่กัน นั่นเอง ดังนั้น เวลาใช้งาน ก็เพียงเลือกหัวแปรงที่ต้องการ จากนั้นก็ละเลงไปบนพื้นที่ว่างๆ ได้เลยครับผม

วิธีใช้งาน Photoshop Brushes

How to use Photoshop Brushes

  1. เปิดโปรแกรม Adobe Photoshop (ตัวอย่างนี้ใช้ Adobe Photoshop CS3)
  2. คลิกเลือกไฟล์ New และเลือกขนาดพื้นที่ที่ต้องการวาดภาพ
  3. คลิกเลือก Pencil Tools (1)
  4. คลิกด้านบนของ Toolbar ให้เลือกหัวแปรง (2)
  5. จะมีภาพหัวแปรงต่างๆ ให้เราเลือก คลิกเลือกตามใจได้เลย (3) เราสามารถเลือกขนาดของหัวแปรงได้จากหัวขอ "Master Diameter"
  6. ละเลงไปบนพื้นที่ที่เราต้องการได้เลย
เห็นไหมครับว่า ใช้งานง่าย น่าสนุกออกน่ะครับ รับรับเปิดโลกจินตนาการของคุณได้เพิ่มมากขึ้น



แปลงภาพถ่ายเป็นภาพวาด Photoshop


มาฝึกหัดแปลงภาพถ่าย เป็นภาพวาดกันดีกว่า ใน Adobe Photoshop
สาเหตุเพราะวันก่อนไปเดินเที่ยวจตุจักร และเห็นคนรับจ้างวาดภาพคน มาเป็นภาพวาดดูแล้วก็สวยไปอีกแบบหนึ่ง แต่เราก็ไม่ได้มีฝีมือแบบเขา ดังนั้นก็เลยคิดว่าจะเอา Photoshop มาช่วยในการจัดการดู และก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจดังนี้..


ภาพวาดก็ให้อีกอารมณ์หนึ่งที่น่าสนใจ

สำหรับผู้ที่ต้องการนำภาพถ่ายปกติ มาแปลงเป็นภาพที่ให้ความรู้จักแตกต่าง แต่ยังคิดไม่ออกมาจะทำอะไรดี มาวันนี้ทางเราจะมาแนะนำการแปลงภาพถ่ายปกติ มาแปลงเป็นภาพวาดได้แบบมืออาชีพเลยทีเดียว รับรองว่าคุณน่าจะสนใจและชอบ ส่วนตัวผมเห็นแล้วก็ปิ้งเลย เรียกว่า ไม่ต้องไปจ้างช่างมาวาดภาพให้อีกแล้ว :)

เทคนิคนี้ จะนำไปรับจ้างทำภาพก็ได้นะครับ เศรษฐกิจแบบนี้ มาหารายได้พิเศษกันดีกว่าไหม!


ขั้นตอนการแปลงภาพถ่ายเป็นภาพวาด

Convert Photo to Drawing Photo

  1. เปิดไฟล์รูปภาพที่ต้องการ
  2. คลิกเมนู Image เลือกหัวข้อ Adjustments เลือก Deasturate (จะได้ภาพเป็นสีขาวดำ)
  3. ให้ทำการ Duplicate Layers (ที่หน้าต่าง Layers) จะได้ภาพอีกภาพหนึ่ง
  4. คลิกเมนู Image เลือกหัวข้อ Adjustments เลือก Invert (จะได้ภาพเป็นสีตรงข้าม)
  5. คลิกเลือก Color Dodge จากหน้าต่าง Layers เช่นเดียวกัน (หน้าต่างภาพจะเป็นสีขาว)
  6. ไปเมนู Filter เลือกหัวข้อ Bulr เลือกหัวข้อ Gaussian Blur
  7. จากนั้น ปรับแต่งตามใจชอบได้เลย
ถูกใจหรือเปล่าครับ ถ้าชอบละก็อย่าลืมไปบอกต่อเพื่อนๆ หรือจะแนบลิงค์จากหน้านี้ไปบอกต่อเพื่อนๆ ก็ได้น่ะครับ สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่คุ้นเคยคำสั่งของ Photoshop ผมก็เลยจับภาพมาให้ดูว่า คำสังที่พูดไปนั้นอยู่ตรงไหนครับ หวังว่าคงทำให้เข้าใจมากขึ้นน่ะครับ

Where is Photoshop Command

หมายเหตุ ขั้นตอนทั้งหมดนี้ ทดสอบจาก Adobe Photoshop CS3




อกสวยได้ไม่ต้องเจ็บตัวกับ Photoshop

ปรับแต่งอกสวยด้วยตัวคุณเอง

ไม่ต้องไปผ่าตัดให้เสียเงิน อกก็สวยได้ด้วยเครื่องมือมหัศจรรย์จาก Adobe Photoshop เพื่อเสริมสร้างบุคคลิกให้สาวๆ ที่ต้องการภาพสวยๆ ไว้อวดเพื่อน หรือเพื่อใช้สำหรับดูคนเดียวก็ไม่ว่ากัน วันนี้จะมาแนะนำคำสั่งเด็ดๆ ที่จะเสริมในส่วนที่ขาดหายไปของใครหลายคน

คำสั่ง Filter ที่ชื่อว่า Liquify  

Make Bigger Boobs

คำสั่ง Liquify เป็นเครื่องมือเสริมอีกตัวหนึ่งของ Photoshop ที่สามารถเสริมอึ๋มให้กับรูปภาพของเราได้ง่ายๆ เชื่อว่าหลายๆ คนคงสนใจใช่ไหมครับ ถ้ายังงั้นให้ลองทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลยครับ  ทดสอบด้วย Adobe Photoshop CS 3

Filter Liquify
  1. เปิด Adobe Photoshop
  2. เลือกไฟล์รูปภาพผู้หญิงที่ต้องการ แต่ถ้าใครสนใจจะใช้ภาพผู้ชายก็ไม่ว่ากัน (คงดูตลกดีเหมือนกัน)
  3. เมนู Filter ให้เลือกคำสั่ง Liquify
  4. ที่เมนูด้านขวามือ ให้เลือกปรับขนาดของแปรง (Brush Size) ให้พอเหมาะกับรูปภาพ
  5. ที่เมนูรูปภาพ (ส่วนอก) ให้คลิกและลากไปบริเวณด้านข้างของทรวงอก (เพื่อขยาย)
  6. แนะนำให้ค่อยๆ คลิกเพื่อขยายแต่ละด้าน
  7. คลิกปุ่ม OK เมื่อพอใจแล้ว
แค่นี้เราก็สามารถเสริมภาพธรรมดาให้ดูเซ็กซี่ขึ้นมากแล้วครับ  เห็นด้วยหรือเปล่าครับ


เปลี่ยนสีผมด้วย Photoshop

สีผมอะไรเหมาะสมกับเรามากที่สุด

สำหรับหลายๆ คนที่กำลังต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองในปีใหม่นี้ เราขอแนะนำการเปลี่ยนสีผม ที่ผู้หญิงหลายๆ ชอบ แต่ก่อนอื่นเพื่อให้เข้ากับใบหน้าและผิวพรรณของเรา แนะนำให้ทดลองบนคอมพิวเตอร์ของเราดูก่อน  มาวันนี้จะมาแนะนำเทคนิคนี้ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop ถ้าใครยังไม่เคยใช้เลย แนะนำให้คลิกที่หัวข้อ สอนใช้งาน Photoshop  โดยอ่านจากหัวข้อเก่าๆ ก่อนน่ะครับ รับรอง ไม่ยากอย่างที่หลายๆ คนกลัวกันครับ

หลักการเปลี่ยนสีผมด้วย Photoshop

Magnetic Lasso Toolเริ่มต้นให้เลือกรูปภาพที่ต้องการก่อน ซึ่งถ้าจะให้ดีระหว่างผม ควรจะตัดกับพื้นฐานที่ชัดเจน  จากนั้นจะต้องเลือกบริเวณที่ต้องการเปลี่ยนสี ซึ่งหมายถึงการสร้าง Selection นั่นเอง อันนี้ต้องแล้วแต่ว่าใครจะถนัดใช้เครื่องมือตัวไหน ซึ่งสามารถเลือกใช้ได้หลายอัน แต่วันนี้จะมาแนะนำใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Magnetic Lasso Tool เพราะเครื่องมือนี้ช่วยหาตำแหน่งใกล้เคียงของสีให้เราได้ด้วย

การทดสอบนี้ ใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS3 น่ะครับ  สำหรับเวอร์ชั่นเก่ากว่านี้ก็สามารถทำตามได้เช่นกันครับ



วิธีการเปลี่ยนสีผมด้วย Photoshop


Change Hair Color with Photoshop

  1. เปิดรูปภาพนางแบบที่ต้องการ
  2. คลิกเลือกมือ Zoom Tool เพื่อซูมเฉพาะบริเวณใบหน้าและเส้นผมที่ต้องการสร้าง Selection เพื่อให้ง่ายในการสร้าง Selection ครับ จะได้เห็นชัดๆ
  3. เลือกเครื่องมือ Magnetic Lasso Tool
    Magnetic Lasso Tool
  4. คลิกบริเวณเส้นผมในตำแหน่งเริ่มต้น และค่อยๆ ลากไปทีละจุด
  5. ถ้าลากผิด ให้กดปุ่มบนคีย์บอร์ด Backspace เพื่อถอยหลังได้
  6. คลิกไปจนเส้นมาบรรจบกัน เราจะได้ Selection (บริเวณเส้นผมที่ถูกเลือก)  ถ้าเป็นเวอร์ชั่นเก่า อาจต้องดับเบิลคลิกหนึ่งครั้งก่อน
  7. หลังจากนั้นเพื่อให้การเปลี่ยนสีมีความกลมกลืนมากขึ้น ให้เราเลือกเครื่องมือเสริม โดยการคลิกเมนู Select เลือกหัวข้อ Modify เลือกคำสั่ง Feather หรือกดปุ่ม Alt+Ctrl+D แทนก็ได้ครับ
  8. กำหนดค่าของ Feather ถ้ารูปขนาดใหญ่มากๆ เช่น 2000 pixels ให้เลือก Feature Radius สัก 10-15 pixels ถ้าน้อยๆ ก็ประมาณสัก 5-8 pixels
  9. ขั้นตอนต่อไป เป็นการสร้าง Layer ใหม่ เพื่อใช้สำหรับปรับสี ให้คลิกเมนู Layer เลือก New Fill Layer เลือกหัวข้อ Solid Color
  10. กำหนดในหัวข้อ Mode เป็น Soft Light
    Mode Soft Light Photoshop
  11. พอกำหนดในหัวข้อ Soft Light แล้ว จะมีหน้าต่างสี ให้เลือกปรับสีได้ทันที
  12. เลือกสีได้ตามความพอใจได้เลยครับ
  13. หลังจากปรับเสร็จแล้วให้คลิก OK
  14. แต่ถ้าต้องการปรับแต่งสีใหม่ ให้ดับเบิลคลิกที่ Layer ที่เราสร้างขึ้นมาใหม่ ในตำแหน่งของสีน่ะครับ เราก็จะได้หน้าสีให้ปรับใหม่อีกกี่ครั้งก็ได้
ReChange Hair Color

ขอให้สนุกกับการตกแต่งภาพน่ะครับ


เปลี่ยนสีตาใน Photoshop

แนะนำการเปลี่ยนสีผมได้แล้ว คราวนี้มาแนะนำการเปลี่ยนสีตากันดีกว่า

การเปลี่ยนสีลูกตา ดูจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากกว่าการเปลี่ยสีผม เพราะเป็นส่วนลูกตากลมๆ เท่านั้น การสร้างจุด Selection ก็น้อยกว่าด้วย เชื่อว่าหลายๆ คนคงสามารถเรียนรู้การทำได้ในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนวิธีการนั้น วันนี้จะแนะนำแบบวิธีที่น่าจะง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องใช้ขั้นตอนอะไรให้ยุ่งยากเลย ไม่เชื่อต้องลองดู

การทดสอบนี้ ใช้โปรแกรม Adobe Photoshop CS3 น่ะครับ  สำหรับเวอร์ชั่นเก่ากว่านี้ก็สามารถทำตามได้เช่นกันครับ

หลักการเปลี่ยนสีตา

Change Eye Color Photoshop

สร้าง Selection จากนั้นให้ copy มาเป็น Layer ใหม่และสั่งเปลี่ยนสีโดยตรง

วิธีเปลี่ยนสีตาด้วย Photoshop

  1. แนะนำให้หาภาพที่เน้นแสดงบริเวณใบหน้า และเห็นดวงตาชัดเจน
  2. Zoom เฉพาะส่วนของตา โดยใช้แว่นขยาย (เลือกแว่นขยาย จากนั้นคลิกค้างและลากมาทางขวาลงมา เพื่อคลุมบริเวณที่ต้องการ)
  3. สร้าง selection อาจใช้เครื่องมือ Elliptical Marquee Tool  เลือกเป็นวงกลมเลย (อันนี้แล้วแต่ภาพน่ะครับ)
    Elliptical Marquee Tool Photoshop
  4. คลิกขวาเลือกคำสั่ง Feather (เพื่อสร้างความนุ่มนวลให้ภาพ) เลือกประมาณ 3-5 pixels ถ้าหาคำสั่งนี้ไม่พบ ให้คลิกเมนู Select เมนู Modify เลือกคำสั่ง Feather
  5. หลังจากเลือกบริเวณตาได้แล้ว ให้ copy และ paste เลยจะได้ Layer ใหม่ที่เป็นเฉพาะดวงตา และมีขอบฟุ้ง แบบเบลอๆ
  6. เลือกเครื่องมือปรับสี โดยคลิกเมนู Image เลือกหัวข้อ Adjustment และเลือกคำสั่ง Color Balance
    Color Balance Photoshop
  7. ปรับลากสีไปซ้าย หรือขวา ในแต่ละแม่สีตามต้องการ สังเกตผลลัพธ์ที่ได้ว่า ถูกใจหรือยัง
  8. เมื่อพอใจแล้ว ให้คลิก OK เพื่อยืนยัน
ง่ายไหมครับ เพียงไม่กี่ขั้นตอน คุณก็สามารถเปลี่ยนสีตาได้แล้ว แถมจะทำแบบแอ๊บแบ๊วก็ไม่ว่ากันครับ ฮิๆ


ความสามารถใหม่ของ Photoshop CS5

มีอะไรใหม่ใน Adobe Photoshop CS5

Adobe Photoshop CS5 เวอร์ชั่นนี้ถือว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ 12 แล้ว สำหรับผู้คุ้นเคยโปรแกรม Adobe Photoshop คงพอมองออกว่าหน้าตาและความสามารถใหม่่ๆ ของ Adobe Photoshop CS5 นี้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด  วันนี้เรามาทำตรวจสอบดูกันสักนิดว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงและน่าสนใจบ้าง

ฟีเจอร์ใหม่ของ Photoshop CS5 ที่น่าสนใจ

  1. หน้าตาที่เปลี่ยนแปลงไป
    ถ้าเราเปรียบเทียบหน้าตาของ Photoshop CS4 กับ Photoshop CS5 จะเห็นว่ามีความเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก แต่ถ้าไปเปรียบเทียบกับ Photoshop CS3 หรือเวอร์ชั่นเก่าๆ ที่ต่ำลงมาก ก็จะพบว่าแตกต่างกันค่อนข้างมาก (แต่เป็นในทางที่ดีและสวยงาม)
  2. อัพเดทให้ทันสมัยคล้ายกับ Windows 7
    จะพบว่าการใช้งานหลายๆ อย่างของ Photoshop CS5 จะมีความคล้ายคลึงกับ Windows 7 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแสดง Thumbnails บน Taskbar เพื่อแสดงฉบับย่อก่อนการคลิกเข้าไปดูจริง หรือเทคนิคการขยายหน้าต่างให้เต็มโดยการเลือกไปวางด้านบนหน้าของจอ เป็นต้น
  3. Mini Bridge
    ตัวช่วยอย่างหนึ่งของผู้ใช้งาน Adobe Photoshop ในเวอร์ชั่นก่อนคือ Adobe Bridge ซึ่งใช้สำหรับการแสดงภาพในลักษณะเดียวกับ Windows Explorer แต่นี่แสดงบน Photoshop โดยตรง ทำให้เราสามารถบริหารจัดการภาพได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาก็คือกินทรัพยากรของเครื่องมาก ทำให้เครื่องทำงานช้า แต่วันนี้มี Mini Bridge ให้ใช้งานเพิ่มเข้ามา น่าจะถูกใจอีกหลายๆ คน
  4. ทำภาพเอียงให้ตรง
    กรณีเรามีภาพเอียง เราสามารถให้ Photoshop ปรับภาพให้ตรงได้อัตโนมัติ โดยใช้คำสั่ง Ruler Tool และเลือกตำแหน่งสองจุดที่เอียง เพื่อให้ปรับภาพให้ตรง  
  5. ปรับแขนขาเหมือนหุ่น
    อีกหนึ่งความสามารถใหม่ และดูจะเป็นความสามารถที่ค่อนข้างเด่นมากๆ นั่นคือ การปรับแขนขาของภาพ (ไม่จำเป็นต้องเป็นภาพคนก็ได้) สามารถปรับได้เช่นเดียวกับการปรับหุ่นเลยครับ สนใจต้องไปลองใช้คำสั่ง Puppet Warp (อยู่ในคำสั่ง Edit)
  6. ลบภาพที่ไม่ต้องการออกแบบเนียนๆ
    หลายๆ ครั่งรูปภาพที่เราถ่าย หรือภาพจากอินเตอร์เน็ต บางครั้งเรามีความจำเป็นจะต้องเอาบางส่วนของภาพออก การ retouch ภาพก็ต้องใช้เวลามากพอสมควร แต่วันนี้ Photoshop CS5 มีเครื่องมือเด็ดๆ ที่จะทำให้เราสามารถลบภาพที่ไม่ต้องการออกง่ายๆ โดยใช้คำสั่ง Content-Aware
  7. HDR (High Dynamic Range)
    สำหรับนักถ่ายภาพโดยเฉพาะ เพราะความสามารถนี้จะใช้สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงที่มืดและสว่าง จากนั้นก็ใช้ Photoshop ช่วยรวมภาพเพื่อให้ได้รายละเอียดของภาพที่สมบูรณ์มากขึ้น (ซึ่งปกติจะไม่สามารถถ่ายด้วยกล้องได้) คำสั่งนี้จะอยู่ที่หัวข้อ Automate Merge to HDR Pro
  8. Lens Corrections
    อีกหนึ่งความสามารถใหม่สำหรับนักถ่ายภาพโดยเฉพาะ การนำภาพจากกล้องดิจิตอลเข้ามาแก้ไขใน Photoshop สิ่งหนึ่งที่อาจมีความผิดเพี้ยนไปบ้าง โดยเฉพาะกับการนำไฟล์ประเภท RAW มาใช้และมีการแปลงเป็น  Jpeg ผลลัพธ์ที่ได้อาจผิดไปบ้างจากต้นฉบับ เนื่องจากไฟล์ RAW ของแต่ละกล้อง ก็จะมีเทคนิดในการจัดเก็บแตกต่างกันไปบ้าง ดังนั้น Photoshop CS5 จึงมีการรวมรวบวิธีการของแต่กล้องมา เพื่อให้เวลาดึงภาพมาใช้งาน จะได้ผิดพลาดน้อยที่สุด คำสั่งนี้อยู่ในหัวข้อ Filter ครับ
  9. เลือกบางส่วนได้ง่ายขึ้น
    เวลาเราตกแต่งภาพ ขั้นตอนหนึ่งที่เป็นปัญหามากๆ ก็คือ การเลือกบางส่วนของภาพ หรือที่เราเรียกว่า Selection ทั้งนี้เพื่อจัดการในส่วนที่เราเลือก ไม่ว่าจะเป็นการลบภาพ ปรับแต่งสีสรร หรือการทำซ้ำ เพื่อไปใช้กับภาพหรืองานอื่นๆ คำสั่งนี้ก็คือ Quick Selection Tool ซึ่งปกติหลายๆ คนรวมทั้งผมด้วย มักจะใช้ Magic Wand Tool ซะมากกว่า
ความสามารถใหม่ของ Adobe Photoshop CS5 ยังไม่หมดน่ะครับ แต่เห็นว่าบางอย่างก็ใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นเก่าๆ แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะทดสอบความสามารถใหม่ ทีมงาน ไอที-ไกด์ดอทคอม จะมาแนะนำให้กับคุณในโอกาสต่อๆ ไปครับ



ปรับองศาภาพให้ตรงด้วย Photoshop CS5

ปรับภาพเอียงให้ตรงด้วย Photoshop

การถ่ายภาพในหลายๆ ครั้งก็ไม่สามารถทำได้อย่างตั้งใจ ภาพบางภาพอาจได้แสงที่ไม่สดใส บางภาพอาจได้ตำแหน่งของวัตถุที่เราต้องการถ่ายไม่ตรงใจก็ได้ แต่ถ้าคุณมีปัญหาการถ่ายภาพแล้ววัตถุในภาพเอียงไป เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop
คำสั่งที่แก้ไขปัญหานี้คือ Ruler Tool

วิธีปรับภาพเอียงด้วย Photoshop
Ruler Tool

  1. เปิดรูปภาพที่มีปัญหาด้วยโปรแกรม Adobe Photoshop
  2. คลิกไอคอน Eyedropper tool
  3. คลิกไอคอนย่อย Ruler Tool

    Ruler Tool Photoshop CS5
  4. เคอร์เซอรจะเปลี่ยนเป็นรูป กากบากและมีรูปไม้บรรทัด
  5. เลือกคลิกตำแหน่งแรก ของจุดที่เห็นว่าไม่ตรง จากนั้นคลิกอีกครั้งในตำแหน่งท้าย
  6. ที่ด้านบนของเมนู ให้คลิกปุ่มคำว่า Straighten
  7. จากนั้นรอสักครู่ โปรแกรมจะปรับภาพและให้อัตโนมัติ
แค่นี้เราก็สามารถปรับภาพที่เอียงให้ตรงตามใจแล้วครับ แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องดูภาพต้นฉบับก่อนว่าเป็นอย่างไร บางครั้่งก็ปรับการเอียงด้วยวิธีนี้ก็ทำให้ภาพผิดจากความเป็นจริงไปบ้างน่ะครับ ดังนั้นคงต้องขึ้นกับภาพต้นฉบับเป็นหลักแล้วครับ